วิธียกเลิกบริการ Voice Mail กด ##002# โทรออก ใช้ได้กับทุกค่ายจริงหรือไม่ ใช่หรือมั่ว

11,045 views

Cancel_Voicemail_05

 

ช่วงนี้มีข้อความที่ถูกส่งต่อๆ กันมาทาง Line และ Facebook เกีี่ยวกับบริการฝากข้อความหรือ Voice Mail ที่เหมือนจะกลายเป็นช่องทางหากินให้กับโอเปอเรเตอร์ในการคิดค่าบริการจากระบบตอบรับอัตโนมัติต่างๆ ที่เกิดขึ้นเมื่อเจ้าของเบอร์ไม่ได้เปิดเครื่องหรืออยู่ในที่ไม่มีีสัญญาณ จนเคยกลายเป็นดราม่าใน Pantip มาแล้ว แต่วันนี้เราจะมาไขข้อข้องใจให้กระจ่างกันเลยครับ ว่ามันสามารถยกเลิกได้จริงแท้แค่ไหน และใช้ได้กับทุกค่ายหรือเปล่า

 

cancel_voicemail_01

 

ค่าบริการเกิดขึ้นได้อย่างไร?

ขอทำความเข้าใจกรณีนี้ก่อนนะครับว่า การถูกเก็บค่าบริการฝากข้อความต่างๆ นั้น ผู้ที่เสียเงินคือคนโทรเข้านะครับ ไม่ใช้เจ้าของเบอร์ ซึ่งค่าบริการดังกล่าว จะเกิดขึ้นจากการที่เจ้าของเบอร์นั้น เปิดใช้บริการฝากข้อความเอาไว้ (Voice Mail Service) หากไม่สามารถติดต่อได้ไม่ว่ากรณีใดๆ ก็ตาม เช่น แบตหมด, ปิดเครื่อง, สัญญาณไม่มี หรือเปิดบริการโอนสาย (Forward) ไปยังเบอร์อื่น ซึ่งเมื่อคนโทรเข้ามา แล้วเจอกับบริการที่ถูกตั้งค่าเอาไว้ ก็จะถูกเสียเงินเนื่องจากมีการรับสายโดยระบบอัตโนมัติ หรือมีคนรับสายตามเบอร์ที่โอนไปนั่นเอง ซึ่งแต่ละโอเปอเรเตอร์ (AIS, dtac, Truemove H) ก็จะคิดค่าบริการแตกต่างกันไป

 

อย่างกรณีของ AIS จะมีการคิดค่าบริการจากผู้โทรเข้าดังนี้

AIS Call Center สำหรับทั้ง 2 บริการ จะมีการคิดค่าบริการตามนี้นะคะ

• บริการรับฝากข้อความ ( Voice mail *99 ) : คิดค่าบริการหลังสัญญาณให้ฝากข้อความเสียง ( ปี๊บ Beep )

• Call Back Service : คิดค่าบริการหลังจากสิ้นสุด Greeting Message : บริการฝากหมายเลขโทรกลับ Welcome to Call Back Service

*หมายเหตุอ้างอิงจากข้อมูลการตอบใน Facebook AIS Call Center

Cancel_Voicemail_01

 

กด ##002# แล้วโทรออก เพื่อยกเลิก Voice Mail ได้ทุกเครือข่ายหรือไม่?

ผมได้ลองทำตามข้อความที่ถูกส่งต่อมาทาง Line ซึ่งอ้างอิงว่า กสทช. ได้แนะนำให้กดรหัส ##002# แล้วโทรออก เพื่อยกเลิกระบบ Voice Mail ทั้งหมด

 

ลองกับ Truemove H ซึ่งปกติผมเองจะไม่ได้เปิดใช้บริการฝากข้อความอะไรอยู่แล้ว ก็สามารถกดรหัสดังกล่าวได้ โดยเครื่องจะแสดงผลออกมาว่าได้ยกเลิกระบบทั้งหมดแล้ว

Cancel_Voicemail_02

 

ลองกับ AIS ก็แสดงข้อความว่ายกเลิกระบบ โอนสาย และฝากข้อความต่างๆ ทั้งหมดเช่นเดียวกัน

advertisements

Cancel_Voicemail_03

 

ส่วน dtac ยังไม่ได้ทดลองนะครับ เนื่องจากไม่มีซิมระหว่างการทดสอบ

 

ทดสอบโทรเข้า

 

Truemove H เมื่อทำการกดรหัสยกเลิกบริการโอนสายแล้ว คราวนี้ผมจะมาทดสอบดูว่าบริการดังกล่าวจะยกเลิกได้จริงอย่างที่ว่ารึเปล่า โดยเริ่มจากเบอร์ของ Truemove H ก่อน เมื่อปิดเครื่องเป็น Airplane Mode ก็จะถูกตัดสัญญาณไม่สามารถติดต่อได้ พอลองโทรเข้า ก็จะได้รับเสียงสัญญาณตอบรับว่า “ขอโทษคะไม่สามารถติดต่อเลขหมายปลายทางได้ในขณะนี้ Sorry it is not possible ….” 2 รอบแล้วตัดสายไป ซึ่งถือว่าไม่ได้เข้าสู่บริการใดๆ และไม่มีค่าบริการเกิดขึ้น

 

AIS เมื่อลองปิดเครื่องเป็น Airplane Mode เช่นเดียวกัน พอโทรเข้าไป ปรากฎว่ามีเสียงตอบรับจากระบบ Call back service ว่า “บริการฝากหมายเลขโทรกลับ Welcome to Call Back Service” ซึ่งเมื่อสิ้นสุดคำนี้เมื่อไร จะเป็นการให้เลือกภาษา เท่ากับว่า AIS จะคิดเงินจากคนที่โทรเข้าสู่บริการดังกล่าวทันที หากวางสายไม่ทันก่อนหน้านี้ ซึ่งผมได้โทรไปสอบถามกับ Call Center ว่ามีการคิดค่าบริการตามเงื่อนไขดังกล่าวจริงหรือไม่ ทาง Call Center AIS ก็บอกว่าเป็นไปตามเงื่อนไขนี้จริงๆ

 

ดังนั้นเท่ากับว่าการกดหมายเลขเพื่อยกเลิกบริการดังกล่าวไม่ได้ผล เพราะทาง AIS ยังมีบริการ Call back service ที่เปิดให้กับผู้ใช้บริการโดยอัตโนมัติเอาไว้ ทำให้ใครก็ตามที่โทรเข้ามาแล้วเจอกับบริการดังกล่าว และวางสายไม่ทันอาจจะโดนชาร์จค่าบริการไปเรียบร้อยแล้ว

 

แล้วอย่างนี้จะยกเลิกบริการ Call back service ได้อย่างไร หลายคนคงตั้งคำถามแบบผม… ผมได้โทรไปสอบถามกับ Call Center AIS แล้วเล่าความต้องการให้พนักงานฟัง พนักงานจึงได้ทำการตรวจสอบระบบให้ ซึ่งหลังจากที่ผมกดรหัส ##002# โทรออก ไปแล้ว ระบบไม่ได้ทำการยกเลิกบริการ Call back service ให้ ต้องให้พนักงานเป็นคนยกเลิกบริการนี้ให้เท่านั้น ซึ่งเมื่อทำการปลดระบบนี้ออกไปแล้ว เมื่อโทรเข้าอีกครั้งในขณะที่ปิดเครื่อง เสียงจากระบบตอบรับอัตโนมัติจะกลาย เป็น “ไม่มีสัญญาณตอบรับจากหมายเลขที่ท่านเรียกค่ะ…” อย่างนี้ก็สบายใจได้แล้วนะครับว่าเพื่อนที่โทรเข้ามาในระหว่างที่ไม่มีสัญญาณหรือปิดเครื่องไว้ จะไม่เสียเงินอย่างแน่นอน

 

ดังนั้นคงสรุปได้ว่าการกดรหัส ##002# โทรออก ยังไม่ใช่การยกเลิกบริการฝากข้อความหรือ บริการโอนสายต่างๆ ที่ใช้ได้กับทุกเครือข่าย เพราะแต่ละโอเปอเรเตอร์ก็มีบริการที่แตกต่างกัน ทางที่ดีควรจะตรวจสอบกับโอเปอเรเตอร์ที่เราใช้บริการให้ดีเสียก่อน แล้วสามารถยกเลิกบริการต่างๆ ได้หากเราต้องการ หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ให้กับผู้ใช้มือถือทุกท่าน ที่จะไม่กลายเป็นผู้รู้เท่าไม่ถึงการณ์ จากบริการต่างๆ ที่อำนวยความสะดวกให้กับเรานะครับ