Google มั่นใจอีก 5 ปี รถไร้คนขับจะเต็มถนน แม้ตัวเลขการเกิดอุบัติเหตุจะมีให้เห็นมากขึ้นก็ตาม

12,603 views

 

การสืบสวนของสำนักข่าว Associated Press ที่ได้รับข่าวจากแหล่งไม่เปิดเผยชื่อ กล่าวว่า “รถไร้คนขับของ Google 3 คันประสบอุบัติเหตุในรัฐ California นับตั้งแต่เดือนกันยายนปีที่แล้ว” ซึ่งรถไร้คนขับของ Google แบบสลับการขับได้ระหว่างคนและคอมพิวเตอร์นั้น เดินทางมาแล้วรวมระยะทาง 1.7 ล้านไมล์ เมื่อเทียบกับจำนวนอุบัติเหตุจะให้อัตราการเกิดอุบัติเหตุ 6.5 ครั้งทุกหนึ่งล้านไมล์ สูงกว่าอัตราอุบัติเหตุที่เสียหายเฉพาะทรัพย์สิน 2.8 ครั้งทุกหนึ่งล้านไมล์ ซึ่งเป็นตัวเลขปี ค.ศ. 2012 ของสำนักงานความปลอดภัยในการจราจรบนถนนหลวงแห่งชาติ (National Highway Traffic Safety Administration)

 

google-driverless-car-1

 

ทำให้ Google ต้องรีบออกมาชี้แจงตัวเลข ซึ่งคิดกันคนละแบบดังนี้

Google ทดลองรถไร้คนขับมาเป็นเวลาหลายปีแล้ว และเมื่อเร็วๆ นี้ Google โพสต์ข้อมูลไว้ที่ Medium Monday ว่า นับตั้งแต่เริ่มทดลองใช้รถไร้คนขับออกแล่นตามถนนในอเมริกาเมื่อหกปีที่แล้ว ปรากฏว่าประสบอุบัติเหตุ 11 ครั้งด้วยกัน และยืนยันว่า อุบัติเหตุที่เกิดขึ้น ซึ่งไม่มีใครได้รับบาดเจ็บนั้น เป็นความผิดพลาดจากฝีมือหรือฝีเท้าของมนุษย์

advertisements

Chris Urmson ผู้อำนวยการโครงการรถไร้คนขับของ Google บอกว่า แม้โปรแกรมคอมพิวเตอร์และเซ็นเซอร์ที่ใช้กับรถรู้ว่าจะเกิดอุบัติเหตุ และสามารถแก้ไขสถานการณ์ได้เร็วกว่าปฏิกิริยาของนักขับรถทั่วไป แต่บางครั้งก็หลีกเลี่ยงอุบัติเหตุไม่ได้ เพราะไม่สามารถปรับแก้ระยะทางและความเร็วของรถคันอื่นๆในเวลาจริงได้ และบางครั้งรถของ Google ถูกชนท้ายขณะรอไฟจราจร

 

google-driverless-car-3

 

ข้อมูลที่ Google เปิดเผยออกมาระบุว่า อุบัติเหตุที่เกิดขึ้น 7 ครั้งเป็นการถูกชนท้าย อีก 2 ครั้งถูกเฉี่ยวด้านข้าง และอีกหนึ่งครั้งเป็นการชนกับรถที่ฝ่าป้ายหยุด ในขณะที่อุบัติเหตุ 8 ครั้งเกิดขึ้นตามถนนในเมือง

“และมีอุบัติเหตุอีกมากที่ไม่ได้มีการรายงานเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพราะเป็นอุบัติเหตุเล็กๆ น้อยๆ จึงไม่ควรนำมาเปรียบเทียบกับตัวเลขของ Google”

 

google-driverless-car-2

 

อย่างไรก็ตาม Google เชื่อว่า จะมีรถไร้คนขับให้ได้ใช้กันอย่างแพร่หลายภายในปี ค.ศ. 2020 หรืออีก 5 ปีข้างหน้านี่เอง แม้จะลงทุนไปเป็นจำนวนมากกับเทคโนโลยีรถไร้คนขับ แต่ก็ยังมีคู่แข่งในเรื่องนี้ เช่น Uber และบริษัทผลิตรถยนต์อื่นๆ ต้องรอดูกันต่อไปว่ารถไร้คนขับของใครจะมาวินนะคะ

 

Source รูปภาพจาก businessinsider