
เมื่อไม่นานมานี้ผมได้มีโอกาสเดินทางไปประเทศจีน โดยจุดหมายปลายทางคือเมืองเซินเจิ้น ซึ่งถือเป็นเมืองท่าเศรษฐกิจที่สำคัญของจีนอีกเมืองหนึ่ง โดยเฉพาะที่คนไทยรู้จักกันดีคือสินค้าก๊อปปี้แบรนด์เนมต่างๆ ทั้งนาฬิกา กระเป๋า รองเท้า เสื้อผ้า เครื่องใช้ไฟฟ้า โทรศัพท์มือถือ และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ โดยมีพ่อค้า แม่ค้า ชาวไทยมากมายที่มารับของจากที่นี่มาขายในเมืองไทย แต่ประเด็นที่อยากจะแชร์คือการใช้อินเทอร์เน็ตซิมที่เมืองจีนนี่แหละครับว่ามันมีเงื่อนไขและข้อจำกัดอะไรยังไง
ก่อนไปผมหาข้อมูลจากในเน็ต เพื่อเตรียมเช็คดูว่ามีเครือข่ายไหนให้บริการที่รองรับ 3G บ้าง ซึ่งได้ข้อมูลว่าที่เมืองจีน มี 2 เครือข่ายที่ใช้งานได้ (จริงๆ มีมากกว่านั้น) คือ China Mobile กับ China Unicom ซึ่ง 2 เครือข่ายนี้ให้บริการด้วยระบบ GSM ที่เป็นระบบเดียวกับเมืองไทยนั่นเอง แต่เมื่อไปถึงก็เจออีกค่ายเพิ่มขึ้นมาคือ China Telecom แต่จะให้บริการด้วยระบบ CDMA (เหมือนกับ Hutch ในบ้านเราสมัยก่อน ที่ปิดตัวไปแล้ว) ซึ่งค่ายนี้เราไม่สามารถใช้ง่ายร่วมกันได้ เนื่องจากมือถือส่วนใหญ่ในบ้านเราเป็นระบบ GSM

ฉะนั้น จึงมี 2 เครือข่ายเท่านั้นที่ใช้ได้สำหรับมือถือจากเมืองไทย แต่ประเด็นหนึ่งที่ทำให้ผมตัดสินใจเปิดโรมมิ่งไปแทนที่จะไปซื้อซิมเน็ตที่นั่น คือ ทุกเครือข่ายจากผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตในจีนจะไม่สามารถเล่นโซเชียลเน็ตเวิร์ค อย่าง Facebook, Twitter ได้นั่นเองครับ ซึ่งสำหรับคนที่ติดโซเซียลอย่างผม คงขาดไม่ได้ที่จะต้อง แชะ&แชร์ หรือบางคนที่พักในโรงแรงที่มี Wi-Fi บริการให้ฟรี ก็ไม่สามารถเข้าเว็บสังคมออนไลน์ต่างๆ ได้เช่นกัน เนื่องจากรัฐบาลจีนไม่อนุญาต
แต่สำหรับการเปิดโรมมิ่งไปนั้น เนื่องจากผมใช้ซิม AIS แบบรายเดือน ผมเลยเลือกแพ็กเกจที่สามารถเชื่อมต่อได้ทั้ง 2 เครือข่าย เพื่อจะได้ไม่ต้องกังวลว่าจะโรมมิ่งผิดเครือข่ายแล้วเกิดค่าบริการที่แพงมหาศาลหรือ Shock Bill อย่างที่เคยเป็นปัญหากัน แต่ปัญหาหนึ่งที่เจอคือตอนแรกเมื่อเครือข่ายโรงมิ่งกันแล้ว ระบบเลือกเชื่อมต่อกับเครือข่ายของ China Mobile โดยอัตโนมัติ ปรากฎว่าความเร็วอินเทอร์เน็ตที่ได้มาแค่ระดับ EDGE ซึ่งช้ามาก ทำให้ต้องเปลี่ยนไปเลือกอีกเครือข่ายหนึ่งคือ China Unicom ผลปรากฏว่ามีสัญลักษณ์ 3G ขึ้นมาทันที ดังนั้นขอแนะนำเลยว่าถ้าจะเปิดโรงมิ่งไปยังประเทศจีนให้เลือกโรมมิ่งกับเครือข่าย China Unicom โดยตรงเลยก็ได้ครับ (แต่ AIS ยังไม่มีแพ็กเกจนี้ให้เลือก)

สำหรับแพ็กเกจที่ผมเลือกใช้นั้นเป็นแพ็กเกจ China Unlimited Data Roaming Package โดยเหมาจ่ายเฉพาะค่าเน็ตไม่จำกัด 5 วัน 1400 บ. (ปัจจุบันไม่มีโปรนี้แล้ว) ซึ่งถือว่าคุ้มมากครับ เพราะเนื่องจากผมเดินทางกันไป 4 คน แล้วเปิดแชร์เน็ตให้เพื่อนได้ใช้ร่วมกันด้วย ซึ่งหากจะโทรกลับเมืองไทย ก็ใช้โทรผ่านแอพ Line หรือจะแชต แชร์ Facebook ก็ใช้ร่วมกันได้หมด ไม่ต้องซื้อแพ็คเกจค่าโทรให้สิ้นเปลือง
หวังว่าบทความนี้คงมีประโยชน์สำหรับเพื่อนๆ ที่ต้องเดินทางไปประเทศจีนกันนะครับ หรือหากใครมีวิธีการใช้งานแบบอื่นก็มาร่วมแบ่งปันกันได้นะครับ




























ดีแทค ไตรเน็ต บริษัทในเครือดีแทค พร้อมแล้วสำหรับการให้บริการลูกค้าบนโครงข่ายใหม่ TriNet 3 โครงข่ายอัจฉริยะ โดยลูกค้าจะเริ่มทยอยใช้งานได้ตั้งแต่ 23 กรกฏาคมนี้เป็นวันแรก หลังจากผ่านการทดสอบจากพนักงานดีแทคในช่วงที่ผ่านมา พร้อมรับคำแนะนำและความคิดเห็นจากลูกค้า ทั้งนี้ ดีแทคเตรียมนำข้อมูลที่ได้รับมาปรับปรุงและสร้างความมั่นใจให้ลูกค้าโดยจะได้เริ่มสัมผัสกับประสบการณ์ที่ดีที่สุดทั้งการโทรและการใช้งานดาต้าบนโครงข่าย TriNet นายจอน เอ็ดดี้ อับดุลลาห์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ดีแทคกล่าวว่า “หลังจากที่ดีแทค ไตรเน็ต บริษัทในเครือดีแทค เปิดตัวโครงข่ายใหม่ TriNet 3 โครงข่ายอัจฉริยะ ในช่วงที่ผ่านมา ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากลูกค้า โดยลูกค้าได้ลงทะเบียนแจ้งความประสงค์ขอใช้บริการบนโครงข่ายใหม่ TriNet แล้วเป็นจำนวนมาก ทั้งนี้ ลูกค้าสามารถใช้งานบนโครงข่ายใหม่ TriNet ได้ตั้งแต่วันที่ 23 กรกฎาคมนี้เป็นต้นไป นอกจากนี้ ลูกค้าที่ได้ลงทะเบียนใช้บริการบนโครงข่ายใหม่ TriNet ไว้แล้วก่อนหน้านี้ ก็สามารถทยอยใช้งานบนโครงข่ายใหม่ TriNet ได้ตั้งแต่วันที่ 23 กรกฎาคมนี้เป็นต้นไปเช่นกัน ซึ่ง ดีแทค ไตรเน็ตได้ทำการทดสอบระบบจากพนักงานดีแทคกว่า 5,000 ราย พร้อม ๆ กับการเร่งตั้งสถานีฐาน ปัจจุบัน ดีแทค และดีแทค ไตรเน็ตมีสถานีฐาน 3G รวมกันแล้วประมาณ 8,000 สถานีฐาน และจะยังคงพัฒนาเพิ่มสถานีฐานต่อไป ซึ่งจะทำให้ในเดือนตุลาคมจะมีสถานีฐาน 3G ทั้งหมดประมาณกว่า 10,000 สถานีฐานทั่วประเทศ” สำหรับลูกค้าดีแทคที่ได้ลงทะเบียนใช้บริการบนโครงข่ายใหม่ TriNet ไว้ล่วงหน้านั้น ตั้งแต่วันที่ 23 กรกฎาคม เป็นต้นไป ลูกค้าจะทยอยได้รับ SMS แจ้งให้ทราบถึงกำหนดการโอนย้าย รวมถึงขั้นตอนแนะนำต่างๆ เพื่อให้ลูกค้าสามารถดำเนินตามได้โดยง่าย และเมื่อเสร็จสิ้น ระบบจะส่งการตั้งค่าเครื่องสำหรับการใช้งาน Internet และ MMS ไปให้ เพื่อใช้งานได้อย่างสมบูรณ์ ทั้งนี้ ถ้าลูกค้ามีความคิดเห็นจากการใช้งาน หรือมีคำแนะนำสามารถโทรแจ้งได้ที่ 1678 นอกจากนี้ ดีแทคได้เผยผลทดสอบสัญญาณมือถือในโครงการ 77/77 ดีแทค อินเทอร์เน็ต ฟอร์ ออล โรด ทริปผ่านมาตรฐานทุกภาค โดยนายประเทศ ตันกุรานันท์ ผู้อำนวยการอาวุโสสายงานปฏิบัติการโครงข่าย บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ดีแทค กล่าวเพิ่มเติมว่า “เป็นที่น่ายินดีว่าผลทดสอบสัญญาณจากจากโครงการ 77/77 ดีแทค อินเทอร์เน็ต ฟอร์ ออล โรด ทริป (77/77 dtac internet for all road trip) มีผลออกมาได้ตามมาตรฐานทุกภาค สร้างความมั่นใจให้ลูกค้าโดยจะได้เริ่มสัมผัสกับประสบการณ์ที่ดีที่สุดทั้งโทรและการใช้งานดาต้า ทั้งนี้ การทดสอบได้ใช้ซิมการ์ดระบบเติมเงินของดีแทค และค่ายอื่นอีก 2 ซิมเพื่อเปรียบเทียบ โดยทั้งหมดคือซิมทั่วไปที่มีจำหน่ายในตลาด และนำซิมใส่ในมือถือเพื่อทำการทดสอบโทรเข้า-รับสาย ตามเส้นทางทุกภาค และผลทดสอบออกมาทุกค่ายผ่านมาตรฐานการใช้งาน” สำหรับผลการทดสอบของภาคเหนือ ภาคตะวันออก ภาคใต้ และสุดท้ายคือภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานคร จากการทดสอบได้ผลว่ามีการโทรสำเร็จ (Call Setup Success) คิดเป็นกว่า 99% จากทุกค่าย และอัตราสายหลุด (Dropped Call) คิดเป็นประมาณ 1% จากทุกค่ายเช่นกันถือว่าอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานด้วยกัน