สัมภาษณ์ 3 ทีม นักพัฒนาไทย ที่ชนะเลิศจากโครงการ dtac Accelerate – Wizard of Apps

1,052 views

dtac-accelerate-05

เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม ที่ผ่านมา OopsMobile ได้มีโอกาสร่วมงาน Demo Day ซึ่งเป็นงานที่รวม 10 ทีมสุดท้าย จากโครงการ dtac Accelerate ซึ่งเป็นงานประกวดผลงานโมบายแอพพลิเคชั่น ในธีม Wizard of Apps เพื่อเฟ้นหานักพัฒนาแอพที่จะได้เป็นสุดยอดทีมในการก้าวสู่ ซิลิคอนแวลลีย์ ศูนย์กลางธุรกิจไฮเทคที่รู้จักกันทั่วโลก โดยงานนี้ ทุ่มงบกว่า 50 ล้านบาท ในการจัดโครงการนี้

โดยในรอบ 10 ทีมสุดท้าย จะให้แต่ละทีมขึ้นมานำเสนอผลงานว่ามีจุดเด่นของแอพอย่างไร มีกลยุทธ์ในการทำตลาดอย่างไร แล้วอะไรคือกุญแจความสำเร็จของแอพที่ตัวเองสร้างสรรค์ขึ้นมา โดยให้เวลาทีมละ 10 นาที และทุกทีมต้องนำเสนอต่อคณะกรรมการ 5 ท่าน เป็นภาษาอังกฤษล้วนๆ โดยช่วงท้ายคณะกรรมการจะมีเวลา 5 นาที ในการซักถามเพิ่มเติม งานนี้แต่ละทีมก็ได้สุ่มฟิตซ้อมกันมาอย่างดี และนำเสนอได้อย่างราบรื่น อาจจะมีบางทีมที่ตื่นเต้นแต่ก็ถือว่าทำกันได้ดี ลองไปดูภาพบรรยากาศของการนำเสนอกัน

dtac-accelerate-01
โฉมหน้าคณะกรรมการทั้ง 5 ท่าน

 

รายชื่อกรรมการมีดังนี้ เรียงจากขวาไปซ้าย

??Benjamin Ranck, CTO แห่ง Jetabroad บริษัทท่องเที่ยวออนไลน์ ซึ่งเชี่ยวชาญด้านการสำรองตั๋วเครื่องบิน และการพัฒนาซอฟต์แวร์สำหรับธุรกิจท่องเที่ยวในอนาคต

??Matt Walters, Principal จาก Ardent Capital? ผู้ร่วมก่อตั้ง WhatsNew และ Topicmarks มีความเชี่ยวชาญด้าน Rapid Scaling และการร่วมทุน

??ชวภาส องค์มหัทมงคล ผู้ร่วมก่อตั้งและผู้บริหาร PrimeStreet Advisory บริษัทที่ปรึกษาด้านการร่วมทุน อาจารย์พิเศษ และที่ปรึกษาให้กับองค์กรธุรกิจและการศึกษาหลายแห่ง

??Stephanie Palmeri, Principal จาก SoftTech VC ที่ลงทุนในบริษัท Startup กว่า 15,000 ล้านบาท มืิอขวาของ Jeff Clavier หนึ่งในบุคคลที่อายุน้อยกว่า 30 ปี ที่มีอิทธิพลที่สุดของโลก คู่กับ Mark Zuckerberg แห่ง Facebook

??ปัญญา เวชบรรยงรัตน์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่าย Business Support System ดีแทค

 

dtac-accelerate-03
แต่ละทีมนำเสนอได้แบบมืออาชีพ

 

dtac-accelerate-02

 

dtac-accelerate-04
ทีม Story Log กรรมการบอกเลยว่านำเสนอได้ฮามาก

ได้เวลาประกาศผล

และหลังจากที่ทุกทีมได้ผ่านการนำเสนอต่อหน้าคณะกรรมการจนครบหมดแล้ว มาถึงช่วงเวลาลุ้นระทึกว่าทีมใดที่จะได้ไปซิลิคอนแวลลี่ย์ และทีมที่ได้รางวัลชนะเลิศ (ที่ 1) ก็ืคือ….

ทีม Fastinflow ซึ่งเป็นแอพพลิเคชั่นที่จะทำให้นักการตลาด สามารถหาผลสำรวจความต้องการของลูกค้าได้ในเวลา 5 นาที

รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 (ที่ 2) ได้แก่ ทีม Haamor ซึ่งเป็นแอพพลิเคชั่นที่ช่วยตอบคำถามเกี่ยวกับปัญหาด้านสุขภาพขั้นพื้นฐาน จากแพทย์ชั้นนำ

รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 (ที่3) ได้แก่ ทีม DietParty ซึ่งเป็นแอพพลิเคชั่นที่ช่วยให้คุณสนุกกับการลดน้ำหนัก ไปพร้อมกับเพื่อนๆ

เอาล่ะครับเราขอแสดงความยินดีกับผู้ชนะเลิศทั้ง 3 ทีม ด้วยนะครับ ฉะนั้นทีม Fastinflow จะได้เข้าร่วมโปรแกรม Blackbox Connect ที่ซิลิคอน แวลลี่ย์ ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นการเข้าคอร์สติวเข้ม เป็นเวลา 2 สัปดาห์ ในการเตรียมความพร้อมเพื่อก้าวสู่การเป็นบริษัทระดับโลก จากผู้บริหารและนักธุรกิจชั้นนำของซิลิคอน แวลลี่ย์ ภายใต้แนวคิด “Half-a-year Silicon Valley experience condensed in a two-week immersion progran”

ส่วนทีมที่ผ่านเ้ข้ารอบโครงการ dtac Accelerate ก็จะได้รับการสนับสนุนการพัฒนาต่อยอดเชิงพาณิชย์จากดีแทคต่อไป เรียกว่าก็ไม่ได้ทอดทิ้งทีมที่เหลือ ซึ่งถือเป็นการดีที่ช่วยส่งเสริมให้นักพัฒนาแอพไทยได้มีโอกาสสร้า้งสรรค์ผลงานต่อยอดได้อย่างยั่งยืนอีกด้วย

Resize of IMG_4063

ทำความรู้จักกับแต่ละทีม

advertisements

เอาล่ะครับ ถึงเวลาที่เรามาทำความรู้จักกับแต่ละทีมที่ได้รับรางวัลในครั้งนี้ โดยเรามีคลิปวิดีโอสัมภาษณ์ความรู้สึกของแต่ละทีมมาให้ดูกันด้วยครับ

Fastinflow

เป็นแอพพลิเคชั่นที่สามารถสำรวจความต้องการจากลูกค้าได้อย่างรวดเร็วภายใน 5 นาที โดยแบ่งผู้่ใช้งานออกเป็น 2 ฝั่ง คือ ฝั่งแรกจะเป็นส่วนของนักการตลาดที่จะต้องตั้งคำถาม ส่วนอีกฝั่งก็จะเป็นคนทั่วไปที่ตอบคำถาม โดยผู้ที่ตอบคำถามจะได้รับคะแนน หรือมีรางวัลต่างๆ เป็นของตอบแทน ส่วนผู้ที่ตั้งคำถามก็จะต้องเสียเงินให้กับแอพนี้ในการตั้งคำถามแต่ละครั้งนั่นเอง ดังนั้นความท้าทายของแอพพลิเคชั่นนี้ ก็อยู่ที่เรื่องของการทำอย่างไรให้มีจำนวนผู้ตอบคำถามที่มาก และหลากหลายที่่สุด เพราะแน่นอนว่าข้อมูลจากการตอบคำถามดังกล่าวจะมีความแม่นยำมากขึ้น ที่สำคัญคือจะช่วยให้สามารถนำไปใช้งานในเชิงสถิติได้จริงนั่นเอง จุดเด่นอีกอย่างหนึ่งก็คือผู้ตั้งคำถามสามารถระบุเพศ อายุ หรือรายละเอียดต่างๆ ของกลุ่มเป้าหมายได้อย่างชัดเจน เมื่อส่งคำถามออกไปแล้ว คำถามดังกล่าวก็จะไปแสดงเฉพาะกลุ่มเป้าหมายที่ตรงกับเงื่อนไขที่กำหนดไว้เท่านั้น เบื้องต้นคาดว่าจะเปิดให้ดาวน์โหลดแอพ Fastinflow จาก Apple Store ประมาณปลายปีนี้

ชมคลิปวิดีโอสัมภาษณ์ทีม Fastinflow

 

Haamor

เป็นแอพพลิเคชั่นที่ช่วยคลายปัญหาสุขภาพด้วยการตอบคำถามง่ายๆ จากแพทย์ชั้นนำ โดยสมมติว่าผู้ใช้มีอาการไม่สบาย แล้วอยากรู้ว่ามีแนวทางรักษาอย่างไร ต้องนัดพบแพทย์เมื่อไร เพียงพิมพ์อาการเข้าไป ก็จะมี Flow คำถามที่เกียวกับอาการนั้นขึ้นมา ให้ผู้ใช้ตอบเพียง Yer หรือ No เท่านั้น โดยจะมีฐานข้อมูลจากตำราแพทย์ระดับโลกที่รวบรวมเอาไว้ ซึ่งครอบคลุมโรคกว่า 6000 โรค พอสิ้นสุึดคำถามของ Flow นั้นๆ แล้ว ก็จะมีคำแนะนำขึ้นมาให้ว่าผู้ใช้จะต้องทำยังไง เช่น คุณจะต้องดูแลตัวเองยังไง คุณจะต้องไปพบแพทย์ได้แล้ว เป็นต้น ซึ่ง Flow คำถามเหล่านี้ได้ใช้ทีมแพทย์กว่า 100 ท่าน เขียน Flow พวกนี้ขึ้นมา ซึ่งมีความเชื่อถือได้เป็นสิ่งที่แพทย์ทุกคนเรียนมา โดยความได้เปรียบของแอพนี้คงอยู่ที่การมีคอนเน็กชั่้นที่ดีกับแพทย์จากโรงพยาบาลต่างๆ โดยมีเว็บไซต์ Haamor.com ที่มีข้อมูลอยู่มากพอสมควรแล้ว ดังนั้นแอพนี้เหมือนเป็นการต่อยอดให้กับเว็บไซต์ที่ตนเองทำอยู่ ให้เข้าถึงผู้ใช้งา่นได้ง่ายยิ่งขึ้นนั่นเอง

ชมคลิปวิดีโอสัมภาษณ์ทีม Haamor

 

DietParty

เป็นแอพพลิเคชั่นเพื่อคนที่ต้องการลดน้ำหนัก ให้สามารถบรรลุเป้าหมายได้ง่ายขึ้น โดยมีการแข่งขันกันลดน้ำหนักร่วมกับเพื่อนได้อย่างสนุกสนาน โดยผู้ใช้จะต้องป้อนข้อมูลด้านอาหารการกิน รวมถึงเก็บสถิติการลดน้ำหนักของเราเอาไว้ โดยสามารถแชร์ไปยังโซเชียลมีเดียต่างๆ ได้ เพื่อเป็นการแข่งขันกันลดน้ำหนักกับเพื่อนๆ นอกจากนี้ในระหว่างที่เล่นก็จะเป็นการสะสมแต้ม เพื่อสร้างให้เกิดแรงกระตุ้นในการลดน้ำหนัก โดยอาจจะมีของรางวัลจากสปอนเซอร์เป็นตัวดึงดูด เรียกว่าเป็นแอพที่ทันกระแสกับยุคนี้ที่คนส่วนใหญ่หันมาดูแลสุขภาพตัวเองกันมากขึ้น และยังมีช่องทางในการต่อยอดได้อีกหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์เสริมที่ใช้ในการวัดแคลอรี่ รวมถึงการคำนวนอัตราการเผาผลาญร่วมด้วย ก็จะเป็นอะไรที่น่าสนใจยิ่งขึ้น

ชมคลิปวิดีโอสัมภาษณ์ทีม DietParty

 

หวังเป็นอย่างยิ่งว่าเวทีการประกวดดีๆ แบบนี้จะมีเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจริงๆ แล้วในเมืองไทยก็มีการตื่นตัวในเรื่องนี้มากโดยเฉพาะจากภาคเอกชน ที่โอเปอเรเตอร์ทั้ง 3 รายใหญ่ ก็พยายามสร้างเวทีให้กับนักพัฒนาแอพพลิเคชั่นทั้งหลายได้มาประลองฝีมือกัน และจะเป็นการดีขึ้นอีกถ้าภาครัฐจะเข้ามาช่วยสนับสนุนและผลักดันโครงการเหล่านี้ ให้ประเทศไทยได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในผู้พัฒนาแอพพลิเคชั่นระดับโลกกับเค้าบ้าง และที่สำคัญ OopsMobile จะขอเป็นสื่อกลางที่ช่วยในการผลักดันนักพัฒนาไทยให้ก้าวไกลระดับโลกอีกแรงหนึ่งด้วยนะครับ