[TME2014] รวมโปรโมชั่น Wearable Device รุ่นล่าสุด พร้อมพาไปสัมผัส Android Wear ก่อนใคร

1,452 views

 

เริ่มงาน Thailand Mobile Expo 2014 Showcase กันแล้วนะครับ โดยงานนี้จะจัดไปจนถึงวันอาทิตย์ที่ 5 ตุลาคม นี้ ใครที่กำลังเล็ง Wearable Device สุดไฮเทคอยู่ละก็ เราเดินสำรวจโปรโมชั่นมาให้แล้ว เลิกงานวันนี้ ก็จะได้พุ่งตรงไปที่บูตไม่ต้องเดินหาให้เสียเวลากันนะครับ

 

Samsung Gear S

เริ่มกันที่ Samsugn Gear S ที่ถือว่าเป็นไฮโลต์ที่สุดของ Wearable Device ในครั้งนี้เลย เพราะมันเป็น Smart Watch ที่ใส่ซิมได้ตัวแรกของซัมซุง โดยงานนี้เปิดให้ผู้ที่ซื้อหรือจอง Galaxy Note 4 ได้บัตรกำนันมูลค่า 3,000 บาท ไว้เป็นส่วนลดซื้อ Samsung Gear S ซึ่งจะวางขายปลายเดือนตุลาคมนี้ ในราคา 11,900 บาท มี 2 สี คือดำ และ น้ำเงินเข้ม

Gear-S-08

 

แอพพื้นฐานใน Gear S บนหน้าจอโค้งรับกับข้อมือ (ดูสเปก Samsung Gear S)

Gear-S-01

 

รองรับแป้นคีย์บอร์ดภาษาไทยแล้ว แต่ปุ่มอาจจะเล็กหน่อย แต่ก็เอาไว้ใช้โพสต์สเตตัสเบาๆ หรือตอบข้อความสั้นๆ ได้ โดยไม่ต้องพึ่งสมาร์ทโฟน

Gear-S-02

 

ปุ่มกดเบอร์โทรศัพท์ก็ใหญ่ โทรออกได้สะดวก แต่เวลาคุยจะต้องผ่านลำโพงในตัว หรือจะเชื่อมต่อกับหูฟังบลูทูธ หากต้องการความเป็นส่วนตัวก็ได้

Gear-S-03

 

เซนเซอร์ที่เพิ่มขึ้นอีกตัวนอกเหนือจาก Gear รุ่นอื่นๆ คือการวัดค่ารังสี UV โดยเมื่อวัดเสร็จก็จะมีคำแนะนำให้ใช้ครีมกันแดด SPF ที่เท่าไร เพื่อป้องกันผิว เป็นต้น

Gear-S-04

 

ลองเล่นแผนที่ ซึ่งมาพร้อม Hear Map ที่เป็นของไมโครซอฟต์ ตัวเดียวกับที่ใช้ใน Lumia

Gear-S-05

 

รองรับซิมแบบ Nano Sim

Gear-S-06
ตัวเครื่องสามารถถอดสายเปลี่ยนได้ง่าย โดยสายจะเป็นเหมือนยางที่ยืดหยุ่นได้แต่เหนียว กระชับและคงทน

Gear-S-07

 

Samsung Gear VR

ต่อเนื่องไปที่ Gear VR กันเลย ซึ่งเป็นอุปกรณ์สวมใส่ที่จะสร้างภาพเสมือนจริงขึ้นมา ได้อย่างตื่นตา ตื่นใจ โดยจะรองรับกับ Galaxy Note 4 ในการใช้เป็นตัวรันเกมที่รองรับกับ Gear VR โดยผู้เล่นที่สวมใส่มันเข้าไปแล้ว ก็จะเหมื่อนเข้าไปอยู่ในเกมนั้นเลยจริงๆ ซึ่ง Gear VR ยังไม่มีแผนที่จะวางจำหน่ายในประเทศไทย ฉะนั้นใครที่อยากลองต้องมาสัมผัสกันได้ที่งาน TME 2014 นะครับ มีให้ลองเล่น 2 เครื่อง ด้วยกัน

Gear-VR-02

Gear-VR-01

Gear-VR-03

 

Wellograph

เดินมาเจอบูตนี้ ต้องเอ๊ะขึ้นมาทันทีเพราะด้วยรูปลักษณ์ดีไซน์ ที่ดูเรียบหรู ทันสมัย ไม่เหมือน Smart Watch อื่นๆ ทั่วไป แถมยังเป็นแบรนด์ของคนไทยอีกด้วย กับ เวลโลกราฟ โดดเด่นด้วยหน้าจอ Sapphire Crystal กันรอยขีดข่วน จอแสดงผลแบบ E-Paper แบตเตอรี่อยู่ได้ถึง 7 วันต่อการชาร์จ 1 ครั้ง สามารถตรวจนับจำนวนก้าวเดิน ระยะทางในการวิ่ง คำนวณการเผาผลาญแคลอรี่ และวัดอัตราการเต้นของหัวใจ รองรับทั้ง iOS , Android 4.0 ขึ้นไป และ Windows Phone

Wellograph-02

 

ราคาพิเศษ เฉพาะในงาน 9,900 บาท จากราคาเต็ม 11,900 บาท สายหนังมีให้เลือก 2 สี ดำ กับ น้ำตาล

Wellograph-01

Wellograph-03

Wellograph-04

 

ได้รับรางวัล Innovations Design and Engineering Awards จากงาน CES 2014 มาอีกด้วย ยังไงก็ช่วยกันสนับสนุนผลงานคนไทยกันด้วยนะครับ

Wellograph-05

 

iWatch จาก iMI

แค่ชื่อก็ชนะแล้ว iWatch จากแบรนด์ (iMI) ไอมี่ Smart Watch สัญชาติ จีน ที่เปิดจองครั้งแรกในงานนี้ ในราคา 5,990 บาท สามารถใส่ซิมโทรออกได้ รองรับระบบ 3G มาพร้อมหน้าจอ 1.54 นิ้ว 720×1280 พิกเซล ซีพียู Quad Core 1.9 GHz แรม 512 MB หน่วยความจำในตัว 4 GB เพิ่ม Micro SD ได้ 32 GB รันบนระบบปฏิบัติการ Android 4.2.2  จริงๆ แล้วมันออกแนวเป็นสมาร์ทโฟนในรูปแบบนาฬิกามากกว่านะครับ เพราะใช้ระบบปฏิบัติการเดียวกับสมาร์ทโฟนเลย สามารถติดตั้งแอพจาก Play Store ได้ แต่ยังไม่ทราบรายละเอียดว่ามีแอพรองรับมากน้อยแค่ไหน โดยจะวางจำหน่ายปลายเดือน ตุลาคม นี้

iME-iWatch-01

iME-iWatch-02

 

มาพร้อมกล้อง 8 ล้านพิกเซล

iME-iWatch-03

iME-iWatch-04

advertisements

 

Jawbone UP 24

เรียกว่า Jawbone เป็นแบรนด์แรกๆ เลยก็ว่าได้ที่เริ่มทำ Wearable Device ออกมาวางขาย โดยในงานนี้มีรุ่นใหม่คือ UP 24 ที่เป็นกำไรรัดข้อมือ เพื่อสุขภาพ สามารถตรวจวัดจำนวนก้าวเดิน ตรวจจับการนอน โดยรุ่นนี้สามารถเชื่อมต่อบลูธูท เพื่อซิงค์ข้อมูลไปยังแอพบนสมาร์ทโฟนได้ จากเดิมที่ต้องเชื่อมต่อผ่านพอร์ต USB รองรับทั้ง iOS 4.0 และ Android 4.3 ขึ้นไป พร้อมสีชมพูมาใหม่ ราคาพิเศษในงาน 5,690 บาท จำกัด 20 ชิ้นเท่านั้น ราคาปกติ 6,290 บาท ที่บูต Jaymart เท่านั้น นอกจากนี้เมื่อซื้อ UP24 สีชมพู จะบริจาคหมวกไหมพรม สำหรับผู้ช่วยมะเร็งเต้านมในโครงการ Samitivej October Go Pink อีกด้วย

Jawbone-up24

 

Garmin Vivofit

การ์มินก็หันมาลุยตลาดนี้มากขึ้นเช่นกัน ซึ่ง Vivofit ก็เปิดตัวมาได้สักพักแล้ว โดยเป็น Finess Band ที่ตรวจจับจำนวนก้าว คำนวณแคลอรี่ วัดระยะทาง และติดตามการนอนได้ โดยมีหน้าจอแสดงผลในตัว จุดเด่นของรุ่นนี้อีกอย่างหนึ่งคือจะมีฟังก์ชั่นเตือนหากมีการอยู่นิ่งๆเป็นเวลา 1 ชั่วโมง และจะเพิ่มขึ้นเมื่อนั่งนานเกินไป เพื่อเป็นการเตือนให้เราลุกขึ้นเดินหรือเคลื่อนไหวบ้าง ส่วนแบตเตอรี่ก็ใช้งานได้ยาวนาน 1 ปี โดยใช้ถ่ายกระดุมเหมือนในนาฬิกาข้อมือ ราคาเท่าปกติ 4,800 บาท แต่แถมสายเพิ่มให้อีก 1 เส้น

Garmin-Vivofit-01-e

 

fitbit

Wearabel Device สำหรับคนรักสุขภาพโดยเฉพาะ โดยมี 3 รุ่น 3 รูปแบบการใช้งานให้เลือก

fitbit Flex จะเป็นสายรัดข้อมือ ที่สามารถตรวจจับจำนวนก้าวเดิน หรือวิ่ง, วัดระยะทาง, ตรวจจับการนอน ตั้งสั่นเพื่อปลุกได้ มีไฟแสดงสถานะ แสดงความคืบหน้าระดับเป้าหมาย มี 5 สี ดำ, เขียว, แดง, น้ำเงิน, ชมพู, สเลท แบตใช้งานได้ 5-7 วัน ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง ราคา  3,990 บาท

Fitbit-02

Fitbit-01

 

ด้านขวามือคือตัวเครื่อง คล้ายๆ กับตัว Core ของ Sony SmartBand ส่วนซ้ายมือคือตัวสายรัดข้อมือที่ด้านในจะสามารถใส่ตัวเครื่องลงไปได้

Fitbit-03

 

fitbit One รุ่นนี้จะมีคุณสมบัติเหมือนกับ fitbit Flex ในการตรวจจับ และวัดค่าต่างๆ แต่เพิ่มความสามารถขึ้นมาอีกอย่างหนึ่งคือการตรวจจับความสูงได้ เหมาะสำหรับคนที่ชอบปีนเขา โดยการใช้งานจะมีตัวหนีบมาให้ ใช้เหน็บที่กระเป๋าเสื้อหรือกระเป๋ากางเกง ขายในราคา 3,990 บาท เช่นกัน

 

Fitbit-04

 

fitbit Zip รุ่นนี้จะมาพร้อมหน้าจอแสดงผล โดยจะเน้นการใช้งานสำหรับตรวจจับการเดิน วิ่ง, วัดระยะทาง และคำนวณแคลอรี แบตเตอรี่อยู่ได้นาน 6 เดือน ราคา 2,490 บาท

Fitbit-05

 

จุดเด่นของ fitbit คือสามารถรองรับกับแอพด้านสุขภาพหลายๆ ตัว อย่าง endomondo ได้อีกด้วย และใช้ได้ทั้ง Android 4.0 ขึ้นไป และ iOS 5.0 ขึ้นไป โดยเมื่อซื้อในงานจะแถม Power Bank 5,000 mAh

 

Wearable Device ที่ยังไม่เข้าไทยให้ลองเล่น

นอกจากนี้ทางเจ้าของงานยังมีบูต Wearable Device รุ่นใหม่ๆ ที่ยังไม่วางขายในประเทศไทย ไว้ให้ลองเล่นกันได้อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น Samsung Gear Live, Moto 360, LG G Watch, LG LifeBand Touch, Pebble ฯลฯ โดยจะอยู่ตรงหลังบูต Line โซนทางเข้าด้านหน้า

 

Samsung Gear Live นาฬิกา Smart Watch ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Android Wear

Wearable-showcase-SS-Gear-live-01

Wearable-showcase-SS-Gear-live-02

 

LG G Watch ก็เป็น Android Wear อีกตัวที่มาให้ลองเล่นกัน

Wearable-showcase-LG-Gwatch-01

 

LG LifeBand Touch

Wearable-showcase-LG-LifeBand-01

 

Pebble นาฬิกา Smart Watch ที่ใช้ได้ทั้ง Android และ iOS ดีไซน์เหมือนนาฬิกาแฟชั่น สุดเก๋

Wearable-showcase-Pebble-01

 

Wearable-showcase-Pebble-02

 

Huawei Honor รุ่นนี้เป็น SmartBand ที่มาในแบบ 2 in 1 โดยสามารถถอดออกมาใช้เป็นหูฟังบลูทูธได้ด้วย

Wearable-showcase-Huawei-02

 

Wearable-showcase-Huawei-03

 

W/ME เป็น Smart Band ดีไซน์เก๋เข้ากับไลฟ์สไตล์อีกตัวหนึ่ง สามารถตรวจจับอัตราการเต้นของหัวใจ, มีหน้าจอแบบ Dot Matrix ใช้แจ้งเตือนอีเมล์ใหม่, เตือนสายเข้า, นาฬิกา, ใช้เป็นชัตเตอร์ไร้สายบน iOS, เช็กอินสถานที่บน Facebook, ใช้เรียกค้นหาโทรศัพท์ และเปิดเป็นไฟฉายได้ด้วย โดยตัวนี้มีขายที่บูตนี้เลย ราคา 5,000 บาท

Wearable-showcase-01

 

เอาล่ะครับ หวังว่าคงจะทำให้ผู้ที่กำลังอยากได้ Wearable Device ไว้ในงานสักตัว ได้ลองพิจารณาก่อนเดินเข้างานได้บ้างไม่มากก็น้อยนะครับ